กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับบัตรประจำตัวประชาชน คือ พระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ.2526 และพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2542
กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับบัตรประจำตัวประชาชน เป็นหลักฐานที่แสดงถึงการเป็นพลเมืองไทย โดยจะต้องเป็นบุคคลผู้มีนสัญชาติไทย มีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 70 ปี ต้องยื่นขอมีบัตรประจำตัวประชาชน ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือที่ทำการกิ่งอำเภอ หรือสำนักงานเขตที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่มีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ มีรายละเอียดดังนี้
- วิธีการขอมีบัตรประจำตัวประชาชน ในการขอมีบัตรประจำตัวประชาชน ผู้ขอต้องยื่นคำขอพร้อมด้วยหลักฐานประกอบคำขอตามระเบียบที่กรมการปกครองกำหนดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในเวลา 90 วัน นับแต่
หลักฐานที่ต้องนำไปในการขอมีบัตรประจำตัวประชาชน ได้แก่
- วันที่มีอายุครอบ 15 ปีบริบูรณ์
- วันที่ได้สัญชาติไทย หรือได้กลับคืนสัญชาติไทยตามกฏหมายว่าด้วยสัญชาติ
- วันที่นายทะเบียนเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน
- วันที่พ้นสภาพจากการได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน
- สูติบัตรหรือหลักฐานที่ทางราชการออกให้ เช่น ใบสุทธิ
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- หนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุลทั้งของตนเอง และของบิดามารดา
- ใบสำคัญประจำคนต่างด้าวของบิดา มารดา หากถึงแก่กรรมให้นำใบมรณบัตรมาแสดง
- ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการทำ
- การขอมีบัตรในกรณีไม่ได้ทำบัตรตามกำหนดระยะเวลามาก่อน หลักฐานที่ต้องนำไปแสดงมีดังนี้
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- นำพยานบุคคล เช่น บิดา มารดา เจ้าบ้านหรือบุคคลที่น่าเชื่อถือไปให้คำรับรอง
- หลักฐานอื่นๆ เช่น สูติบัตรหรือหลักฐานการศึกษา หนังสือสำคัญการเปลี่ยนตัว ชื่อตัว ชื่อสกุล ทั้งของตนเอง และของบิดามารดา (ถ้ามี) ใบสำคัญทางทหาร (ถ้ามี) ใบสำคัญประจำคนต่างด้าว หากถึงแก่กรรมให้นำใบมรณบัตรมาแสดง
- เปรียบเทียบปรับไม่เกิน 200 บาท
- ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการทำบัตร
- การขอมีบัตรใหม่หรือเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ การขอมีบัตรใหม่หรือเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชนใหม่นั้นทำได้ในกรณีดังต่อไปนี้
- บัตรเก่าหมดอายุ
- บัตรเก่าสูญหายหรือถูกทำลาย
- บัตรเก่าชำรุดในสาระที่สำคัญ เช่น รูปถ่ายเจ้าของบัตรฉีกขาดจนไม่เห็นเค้าหน้าของเจ้าของบัตร เป็นต้น
- มีการแก้ไขชื่อตัว หรือชื่อสกุล หรือทั้งชื่อตัวและชื่อสกุล ในทะเบียนบ้าน
- การขอมีบัตรใหม่หรือเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ ทำได้ในกรณีต่อไปนี้
- บัตรเก่าหมดอายุ
- บัตรเก่าสูญหายหรือถูกทำลาย
- บัตรเก่าชำรุดในสาระที่สำคัญ เช่น รูปถ่ายเจ้าของบัตรฉีกขาดจนไม่เห็นเค้าหน้าของเจ้าของบัตร เป็นต้น
- มีการแก้ไขชื่อตัว หรือชื่อสกุล หรือทั้งชื่อตัวและชื่อสกุลในทะเบียนบ้าน
- การขอเปลี่ยนบัตรใหม่ เมื่อบัตรเดิมหมดอายุ
บัตรประจำตัวประชาชนจะมีอายุใช้ได้คราวละ 6 ปี นับแต่วันที่ออกบัตร เมื่อบัตรหมดอายุ ผู้ถือบัตรนั้นต้องไปยื่นคำร้องขอมีบัตรใหม่ ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่บัตรเดิมหมดอายุ หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง มีดังนี้- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- บัตรประจำตัวประชาชนที่หมดอายุ
- ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการทำ
- การขอมีบัตรใหม่ในกรณีบัตรเดิมสูญหาย หลักฐานที่ต้องนำไปแสดงมีดังนี้
- ใบแจ้งความบัตรหาย
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- หลักฐานเอกสารซึ่งมีรูปถ่ายของผู้มีบัตรและเป็นเอกสารซึ่งทางราชการออกให้
- เสียค่าธรรมเนียมในการทำ 10 บาท
- การขอเปลี่ยนบัตรเนื่องจากเปลี่ยนแปลงรายการในทะเบียนบ้าน หลักฐานที่ต้องนำไปแสดงมีดังนี้
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- บัตรประจำตัวประชาชนบัตรเก่า
- หนังสือสำคัญการเปลี่ยนแปลง เช่น หนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า
- เสียค่าธรรมเนียมในการทำ 10 บาท
- ความผิดและโทษของผู้ฝ่าฝืน ไม่ทำตามกฏหมายเกี่ยวกับบัตรประจำตัวประชาชน
- ไม่ขอมีบัตรภายในระยะเวลาที่กำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
- บัตรหมดอายุ บัตรหาย บัตรถูกทำลาย เปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล ไม่ยื่นขอมีบัตรใหม่ภายใน 60 วัน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200 บาท
- ไม่ส่งมอบบัตรคืนให้กับพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วัน หลังจากเสียสัญชาติไทย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย หรือแสดงหลักฐานเป็นเท็จเพื่อขอมีบัตร ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นผู้มีสัญชาติไทย หรือใช้บัตรซึ่งตนหมดสิทธิ์ใช้เมื่อเสียสัญชาติไทยแล้ว ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท
- เอาบัตรของผู้อื่นไป หรือยึดบัตรของผู้อื่น หรือใบรับรอง หรือใบแทนรับรองของผู้อื่น เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
- ไม่อาจแสดงบัตรหรือใบรับหรือใบแทนใบรับบัตรประจำตัวประชาชนของตน เมื่อเจ้าพนักงานตรวจบัตรขอตรวจ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200 บาท
- ผู้ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน ได้แก่
- พระภิกษุ สามเณร
- ข้าราชการ
- นักโทษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น